วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555

หน้าใสง่ายๆด้วย AHA


 
ใบหน้าสวยใส ด้วย AHA
AHA หรือ Alpha hydroxy acid เป็นกรดอินทรีย์ที่พบในธรรมชาติ และได้มีการผลิตสังเคราะห์ เพื่อใช้เป็นเวชภัณฑ์สำอางค์ AHA ที่สามารถพบได้ตามธรรมชาติ ได้แก่ Glycolic acid พบได้ในอ้อย, Lactic acid พบได้ในนมเปรี้ยว, Citric acid พบได้ในผลไม้, Malic acid พบได้ในแอปเปิ้ล และ Tartaric acid พบได้ในองุ่น

ในสมัยก่อน ตั้งแต่เมื่อชาวอียิปต์ มีความรุ่งเรืองในอารยธรรม ได้พบว่ามีการบันทึกเกี่ยวกับสตรีชาวอียิปต์ใช้นมเปรี้ยวอาบ เพื่อทำให้ผิวหนังมีความนุ่มเนียน และนี่ก็คือการใช้ Lactic acid ซึ่งเป็น AHA ตัวหนึ่ง สำหรับในเมืองไทยเอง คงเคยทราบมาว่า มีการใช้ผลไม้หรือผักในการทำให้ใบหน้ามีความเนียนเรียบ ตัวอย่างนี้ก็คงเป็นการใช้ AHA ตามธรรมชาติที่มีด้วยเหมือนกัน

ในปัจจุบัน ได้มีการสังเคราะห์ AHA และผสมอยู่ในเครื่องสำอางค์หลายยี่ห้อ โดยมีความเข้มข้นแตกต่างกัน ตั้งแต่ 3 % ถึง 30 % โดยที่มีคุณสมบัติช่วยในการลดรอยหย่นบนใบหน้า สำหรับในทางการแพทย์ ความเข้มข้นสำหรับการใช้นั้น มีตั้งแต่ 3%-15% สำหรับให้ผู้ป่วยไปใช้ที่บ้าน และ 30%-70% สำหรับการลอกผิวที่ต้องการผลที่มากกว่า โดยทำการลอกผิวโดยแพทย์
ประโยชน์ของ AHA สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เวชสำอางค์ (3%-15%) คือ

    - ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน
    - ทำให้ผิวหน้าดูมีน้ำมีนวล
    - ทำให้รูขุมขนไม่มีการอุดตัน
    - ช่วยลดการเกิดผิวมันและสิวดีขึ้น

ส่วนการใช้ AHA 30%-70% โดยแพทย์นั้น มีประโยชน์ในการรักษาโรคต่าง ๆ ดังนี้ 
  - สิวและตุ่มขนอักเสบ ช่วยทำให้สิวมีจำนวนน้อยลง และดีขึ้นเร็วขึ้น
       - ฝ้า พบว่าจางลงและดีขึ้น
       - รอยเหี่ยวย่น บนใบหน้า
  -ช่วยรักษาผื่นจากแสงแดด (เช่น ฝื่นดำจากแสง Solar lentigenes, ภาวะเสื่อมสภาพจากแสง Actinic degeneration)

ข้อดีของการใช้ AHA peeling คือ ไม่พบว่ามีพิษต่อร่างกาย , การลอกนั้นตื้นดังนั้นจึงมีผลข้างเคียงน้อย และ ผู้ป่วยสามารถจะทนได้ดีต่อสาร

ข้อเสียของการใช้ AHA peeling และเวชภัณฑ์สำอางค์ที่มี AHA คือ ผิวหนังจะมีความไวต่อแสงอุลตราไวโอเลตเพิ่มขึ้น กล่าวคือ อาจมีการไหม้ของผิวได้ง่ายขึ้นเมื่อตากแดง หรือมีความรู้สึกแสบผิวได้มากขึ้น และถ้าหากเป็นผู้ที่ต้องโดนแดนประจำ อาจมีความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนังเพิ่มขึ้น

ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่ใช้ หรือสนใจจะใช้ AHA หรือได้รับการทำการลอกผิวด้วย AHA คือ
   ควรใช้ยากันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 15 ขึ้นไป
   - ควรกางร่มหรือสวมหมวก ปกป้องผิวจากแสงแดด
   - ควรทดสอบใช้บริเวณเล็กก่อน เพื่อดูว่ามีการระคายเคืองหรือไม่
   - ถ้ามีอาการแสบเคือง ให้หยุดใช้แล้วปรึกษาแพทย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น